เครื่องกำจัดฝุ่นแบบเปียก หรือ ระบบสเปร์ยน้ำ หรือที่นิยมเรียกกันทั่วไปว่า wet scrubber เหมาะสำหรับงานดักจับกลิ่น แกส หรือ ไอกรด มากกว่าที่จะใช้ดักจับฝุ่น โดยที่แกส หรือ ไอกรด ต้องสามารถละลายน้ำได้เท่านั้น เนื่องจากแกสที่ถูกดูดมาจะถูกจับด้วยละอองน้ำแล้วกลายสภาพเป็นของเหลว เช่น แกสซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) เมื่อสัมผัสกับน้ำจะกลายเป็นกรดซัลฟุริก (H2SO4) ส่วนแกสคลอรีน เมื่อสัมผัสกับน้ำจะกลายเป็นกรดเกลือ (HCL) เป็นต้น
Wet Scrubber สามารถติดตั้งพัดลมดูดกลิ่นได้ 2 แบบ คือ แบบเป่าเข้า และ แบบดูดออก
ถ้าออกแบบระบบสเปรย์น้ำเป็นถังทรงกระบอกตั้งขึ้นและติดตั้งปล่องระบายอากาศไว้ด้านบนถัง จำเป็นต้องติดตั้งพัดลมดูดกลิ่นแบบเป่าเข้า ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ในการตั้งปล่อง อีกทั้งช่วยสามารถประหยัดความยาวของท่อที่นำมาทำปล่องได้อีกด้วย เนื่องจากปล่องติดตั้งอยู่บนถังจึงทำให้ปล่องมีความสูงขึ้นด้วยโดยใช้ถังเป็นฐานของปล่องไปในตัว แต่กลิ่นที่จะดูดผ่านพัดลมแล้วเป่าเข้าถังสเปรย์น้ำต้องปราศจากฝุ่น หรือ มีฝุ่นขนาดเล็กๆในปริมาณที่น้อยมากๆ เพื่อลดการสึกหรอของใบพัดลมที่ต้องสัมผัสกับฝุ่นโดยตรง ในทางตรงกันข้าม ถ้ากลิ่นที่ดูดมามีฝุ่นปะปนมาเป็นปริมาณมาก จำเป็นต้องติดตั้งพัดลมไว้ด้านหลังถังสเปรย์น้ำ เพื่อลดปริมาณฝุ่นลงก่อนเข้าพัดลม อีกทั้งยังมัละอองน้ำปะปนออกไปด้วย ดังนั้น วัสดุที่ใช้ทำพัดลมควรจะเป็นไฟเบอร์กลาส (FRP), PP, SUS304 เป็นการป้องการผุกร่อนด้วย
ส่วนประกอบของ wet scrubber
หัวใจสำคัญของระบบสเปรย์น้ำ คือ Packing Media มีลักษณะคล้ายลูกตะกร้อ ส่วนใหญ่ทำขึ้นจาก PP ทำหน้าที่เพิ่มพื้นที่สัมผัสระหว่างน้ำกับกลิ่น ช่วยให้การดักจับกลิ่นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถ้าหากว่ามีฝุ่นปะปนมาด้วย ฝุ่นจะติดอยู่ที่ Packing Media นี้ เกิดการสะสมมากๆเข้า ก็จะทำให้ scrubber ตันได้เช่นเดียวกัน จำเป็นต้องล้างทำความสะอาด scrubber อย่างสม่ำเสมอ